ปอมไซส์จิ๋ว ปอมทีคัพที่ใครๆ พากันหลงรัก

ถ้าคิดว่าปอมเมอเรเนี่ยนที่เห็นทุกวันนี้เล็กน่ารักน่าเอ็นดูแล้ว แฟนพันธุ์แท้หมาต้องหลงรักในปอมทีคัพ ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถอยู่ในถ้วยน้ำชาได้ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ปอมทีคัพ” นั่นเอง

แต่ทุกคนทราบกันหรือไม่ว่า กว่าที่เราจะมีปอมทีคัพกันอย่างทุกวันนี้ เมื่อก่อนสุนัขสายพันธุ์นี้มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าที่เราเห็นในปัจจุบันนี้มาก แรกเริ่มแล้วหมาปอมมีขนาดไม่ต่างจากหมาพันธุ์คอลลี่ ซึ่งต้นตระกูลของปอมเมอเรเนี่ยนนั้นมาจากสุนัขสายพันธุ์สปิตซ์ (Spitz) นั่นเอง

การเพาะเลี้ยงสุนัขเกิดขึ้นมานาน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และค่อยพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ ขึ้นมา ในปี 1600s หมาปอมเริ่มเป็นที่นิยมอย่างมากเพราะเป็นที่โปรดปรานในหมู่ราชวงศ์ตะวันตก ซึ่งตอนนั้นหมาปอมยังมีขนาดที่ใหญ่อยู่

ความต้องการเพาะหมาปอมให้มีขนาดเล็กลง เกิดจากสุนัขทรงเลี้ยงของพระราชินีวิคตอเรีย แห่งสหราชอาณาจักรมีขนาดเล็กกว่าปอมเมอเรเนี่ยนทั่วไป สมัยนั้นหมาปอมจะมีน้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30 ปอนด์ หรือประมาณ 14 กิโลกรัม

ตั้งแต่ความคลั่งไคล้ในหมาปอมที่มีขนาดเล็กลงมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหล่านักเพาะหมาสมัยก่อนพากันเพาะหมาปอมให้เล็กลงเพื่อเอาใจความต้องการและความนิยม จนในปี 1888 สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนี่ยนก็ได้บรรจุอยู่ใน American Kennel Club และราวปี 1900s ขนาดมาตรฐานหมาปอมก็ถูกตราขึ้นครั้งแรก ซึ่งหมาปอมขนาดมาตรฐานในสมัยก่อนจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 10 ปอนด์ หรือประมาณ 5 กิโลกรัม แต่ในปัจจุบัน ขนาดมาตรฐานของหมาปอมตามกฏของ American Kennel Club จะอยู่ที่ 3 - 7 ปอนด์ หรือ 1.36 - 3.18 กิโลกรัม และถูกจัดให้อยู่หมวดหมู่ของหมาประเภท “ทอย” หรือหมาขนาดเล็ก ในขณะที่มาตรฐานของหมาปอมตามกฏของ (UK) Kennel Club จะแยกน้ำหนักของเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งเพศผู้ควรมีน้ำหนัก 1.8-2 กิโลกรัม หรือ 4-4.5 ปอนด์ เพศเมียควรมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2 - 2.5 กิโลกรัม หรือ  4.5 - 5½ ปอนด์