เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ทุกท่านมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรในการดูแลสุนัขในฤดูฝนนี้ วันนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทนี่ปอมฟาร์มมีสาระดีๆให้ทุกท่านเตรียมป้องกันและเป็นแนวทางในการดูแลสุนัขและความรู้เกี่ยวกับโรคที่มาพร้อมฤดูฝนมาแนะนำค่ะ
1. โรคพยาธิในเม็ดเลือด
เมื่อเข้าสู่หน้าฝนสิ่งที่จะตามมาด้วยคือ"เห็บ" สิ่งมีชีวิตที่ค่อยกัดกินเลือดของสุนัขและทำให้สุนัขเกิดภาวะโลหิตจาง สำหรับโรคพยาธิในเม็ดเลือด เกิดจากการติดเชื้อสิงมีชีวิตเซลล์เดียวที่เข้าไปแฝงอยู่ในเม็ดเลือดขาวหรือเม็ดเลือดแดง และตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น ต่อมน้ำเหลือง ตับ ม้าม และไขกระดูก เมื่อสุนัขที่ป่วยจะแสดงอาการเบื่ออาหาร เยื่อเมือกซีด มีไข้สูง น้ำหนักลด เลือดกำเดาไหล เป็นอัมพาตขาหลัง พบจุดเลือดออกตามผิวหนังหรือเยื่อบุต่าง ๆ เราสามารถทราบได้จากการตรวจเลือด หากเป็นต้องรักษาด้วยการฉีดยา หรือกินยาต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรค ควรดูแลสุนัขของคุณให้สะอาดและใช้ยาป้องกันเห็บหมัดตามที่คุณหมอแนะนำ
2.โรคฉี่หนู
โรคเลปโตสไปโลซีส(Leptospirosis) ซึ่งเป็นชื่อโรคที่มาคู่กับหน้าฝน หากเราปล่อยสุนัขไปเดินพื้นดินที่สกปรกหรือน้ำท่วมขัง เชื้ออาจจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลที่ผิวหนัง เยื่อเมือกที่ตา จมูก และปากได้ เพราะเชื้อมักอยู่ตามแหล่งน้ำท่วมขัง ตามดินและโคลนตม สุนัขที่ได้รับเชื่อจะแสดงอาการ เช่น ซึม อ่อนแรง เบื่ออาหาร ท้องเสีย อาเจียน กินน้ำมาก ปัสสาวะมากหรืออาจปัสสาวะน้อย ไปจนถึงไม่มีปัสสาวะเลย หีออาจแสดงอาการร่างกายขาดน้ำ มีไข้สูง เกิดภาวะดีซ่าน (ตัวเหลือง) ตาแดง (พบการอักเสบในส่วนยูเวียของตาและเยื่อบุตา) อาจเจ็บปวดบริเวณท้อง เจ็บปวดกล้ามเนื้อ สิ่งที่ควรระวังหลังจากฝนตก ไม่ควรปล่อยน้อยออกมาวิ่งเล่นนอกบ้าน
3.โรคระบบทางเดินหายใจ
ฤดูฝนเป็นช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงและมีความชื้นสูง จึงทำให้เกิดโรคต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด หรโรคหลอดลมอักเสบ ในสุนัขซึ้งพบได้บ่อยในลูกสุนัข สุนัขสูงวัย และสุนัขที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง สาเหตุเกิดเกิดติดเชื้ ทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย
สุนัขที่ได้รับการติดเชื้อแสดงอาการไอแบบมีเสมหะ ขี้ตา ตาอักเสบ มีน้ำมูกใส ๆ ไปจนถึงมีน้ำมูกข้นสีเขียว ในกรณีที่ติดเชื้อรุนแรงสุนัขจะมีไข้ ซึม เบื่ออาหาร ปอดบวม หายใจลำบาก จนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยก็มี การรักษาทั้วไปคือ กินยา หรือ ฉีดยาตามคุณวินิจฉัย แต่ถึงอย่างไรการป้องกันไว้คือสิ่งสำคัญ สุนัขควรได้รับวัคซีนตามกำหนด และไม่ควรอยู่ในที่ที่มีความชื้นเกินไป
4.โรคพยาธิหนอนหัวใจ
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าโรคพยาธิหนอนหัวกับโรคพยาธิในเม็ดเลือด เป็นโรคเดียวกัน ซึ่งความจริงแล้วสองโรคนี้ต่างกันมา พาหะนำโรคของโรคพนาธิหนอนหัวใจคือ "ยุง" ฤดูฝนเป็นหน้าที่มียุงชุกชุม เนื่องจากมีแหล่งน้ำขัง ถ้าสุนัขที่เลี้ยงอยู่นอกตัวบ้านอาจจะทำให้เกิดภาวะโรคนี้ได้ ถ้าสุนัขได้รับเชื้อจะแสดงมีอาการหอบ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ไอเรื้องรัง ท้องมาน เบื่ออาหาร ถ้าเป็นรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ มีหลายวิธีด้วยกันในกาป้องกัน การให้ยาฆ่าพยาธิตัว หรือให้ยากำจัดพยาธิตัวอ่อนเพื่อลดจำนวนไมโครฟิลาเรียในกระแสเลือด ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลารักษาเป็นเวลานาน การป้องการที่ดีที่สุดคือดูแลพื้นที่มีน้ำท่วมขัง เลี้ยงสุนัขภายในบริเวณบ้าน
5.โรคผิวหนังอักเสบติดเชื้อ
เมื่อเข้าสู่หน้าฝนแน่นอนว่าจะเต็มไปด้วยความชื้น เมื่อผิวหนังสุนัขสัมผัสความชื้นที่ จะก่อให้เกิดโรคสำคัญได้แก่ เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา สุนัขจะแสดงอาการอาการคัน ผื่นแดง มีเม็ดตุ่มแดง มีตุ่มหนอง ขนร่วง และมีกลิ่นตัวได้ การรักษาสุนัขที่เป็นโรคผิดต้องใช้ระยะเวลานานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ขั้นตอนการรักษา มีทั้งยากิน ยาทา และแชมพูฆ่าเชื้อ ถึงอย่างไรสิ่งสำคัญคือการดูแลรักษาความสะอาด เพราะจะมีโอกาศกลับมาเกิดขึ้นได้อีก
บทความนี้เป็นของ:ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทนี่ปอมฟาร์ม
รูปภาพ: Teacup Dogs Daily